Daily Leak

  

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะทำงานกับบริษัทนี้ บริษัทที่ผมอยู่มาได้แค่ 8 เดือน ซึ่งสั้นที่สุดตั้งแต่ผมเริ่มชีวิตการทำงาน ปกติผมเป็นคนที่ไม่ชอบย้ายงาน ผมคิดว่าการย้ายบ่อยมันใช่สิ่งที่ดีนัก แต่เนื่องจากครั้งนี้เองผมก็ไม่อยากจะพลาดโอกาสในที่มันวิ่งเข้ามาในชีวิตเองเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะหามัน แต่เมื่อมันมาแล้วก็อยากจะคว้าไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ปลายทางจะเป็นสิ่งที่ผมหวังไว้หรือเปล่าผมเองก็ยังไม่แน่ใจ

ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาผมสนุกมาก ที่เพื่อนร่วมงานที่ดี เจ้านายที่ดี ชีวิตแฮปปี้ ได้มีโอกาสเรียนภาษาญี่ปุ่นถึงแม้จะเล็กน้อยแต่ก็เปิดโลกให้ผมได้เหมือนกัน ตอนแรกตั้งใจจะพูดให้ได้เลยนะเนี่ย ซื้อหนังสือมาครบสุดเลยครับ 4 เล่ม แบบฝึกหัดอีก 2 เล่ม แต่ในเมื่อได้มาสัมผัสแล้วก็ตั้งใจว่าจะเรียนต่อไปนะ สุดท้ายของให้ทุกคนโชคดีครับ

  

โดยมีผู้ซื้อ Pixel 2 จาก Verizon ชื่อว่า Lucas Everett ได้ทวีตความผิดปกติของกล่อง Pixel 2 ที่ได้รับ โดยถาดใส่อุปกรณ์เสริม มีหลุมของหูฟังที่ไม่มีหูฟัง แถมคู่มือก็เขียนว่าในกล่องมีหูฟังแบบสาย Earbuds ด้วย ซึ่งกล่อง Pixel 2 ทั่วไปนั้นถาดอุปกรณ์เสริมจะไม่เป็นแบบนี้
Everett เองได้ติดต่อไปยัง Verizon เพื่อแจ้งปัญหาดังกล่าว โดยบอกว่าเขาควรได้หูฟัง Earbuds ที่หายไปด้วย แต่ตัวแทนของ Verizon บอกว่า Pixel 2 กล่องอื่นนั้นไม่มีหูฟังมาให้เหมือนกัน จึงไม่สามารถนำมาให้ได้จริงๆ ด้านกูเกิลยืนยันว่าแพ็คเกจชุดนี้เป็นรุ่นแรกๆ ที่ทำออกมา ซึ่งก็อาจสรุปได้ว่าเดิมกูเกิลคิดจะแถมหูฟังมาให้ด้วย แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ

  

หลังจากการ Hard Fork สำเร็จ ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงในทันที
และตามสูตรส่งผลให้ราคา Altcoin พุงกระฉูดหลัง Hard fork เป็น BTG สำเร็จ
บางเหรียญราคาพุงสูงขึ้นมากกว่า 20% แต่พายุยังไม่สงบ ในเดือนหน้าจะมีการ Hard fork ครั้งสำคัญอีกครั้ง
คราวนี้มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น  

พอดีช่วงหลังมานี่ผมสนใจในการเทรคเหรียญ crypto และผมก็สนใจในการลงทุนซื้อพวกเหรียญ ICO เพื่อหวังผลตอบแทน แล้วบังเอิญผมไปเจอรายการนึงน่าสนใจมากๆใน Youtube วันนี้เลยจะมาลองแนะนำรายการนี้ครับ ใครสนใจคลิกดูที่ลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

  

ปัญหาของคนทำเว็บให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยที่มีมานานแล้วก็คือ ต้องจดทะเบียน Certificate SSL ให้รองรับทุก Subdomain ภายในเว็บของตอนเองซื่งบางครั้งมีเยอะมาก

ทาง Let's Encrypt จึงประกาศว่าจะรองรับใบรับรองแบบ wildcard (สามารถใช้กับทุก subdomain ได้ด้วยใบรับรองเดียว) ภายในเดือนมกราคมปีหน้า (2018) การขอใบรับรองแบบ wildcard ในช่วงแรกจะต้องทำ validation ด้วย DNS เท่านั้น และต้องเชื่อมต่อขอใบรับรองด้วย ACMEv2 เท่านั้น แต่กระบวนการขอใบรับรองอาจจะเพิ่มเติมได้ในอนาคต
ตอนนี้ Let's Encrypt ออกใบรับรองไปแล้วถึง 47 ล้านโดเมน  

ในทึ่สุดบริษัทแนวซอฟท์แวร์ ฐานข้อมูล ก็กำลังจะเข้าตลาดหุ้นไปอีกหนึ่งบริษท ตามหลังรุ่นพี่ที่เข้าไปนานแล้วอย่าง Oracle



MongoDB บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล เตรียมนำหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ คืนนี้ด้วยตัวย่อ MDB (ตามที่มีข่าวก่อนหน้า) ที่ราคา 24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ระดมทุนไปได้ 192 ล้านดอลลาร์ และมีมูลค่ากิจการ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินเบื้องต้นที่หุ้นละ 20-22 ดอลลาร์
รูปแบบรายได้ของ MongoDB นั้นคือการให้บริการฐานข้อมูลแบบโอเพ่นซอร์ส และหาเงินจากการขายเครื่องมือเสริมต่างๆ และบริการสนับสนุนสำหรับองค์กร ซึ่งรายได้และจำนวนลูกค้าของ MongoDB นั้นก็เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยไตรมาสล่าสุดมีรายได้ราว 35 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนทุกไตรมาสเช่นกั  

หลังจากที่ป่วยหนักเป็นไข้หวัดใหญ่ นับเวลาที่ป่วยจนหายสนิทจริง ก็เกือบๆ 10 วันทรมานมาก
เข้าใจถึงคำว่า การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐเลย ไม่อยากป่วยอีกเลย

ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนนะครับ วันนี้สบายดีแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ  

จริงๆ เรื่องนี้ผมค่อนข้างจะเห็นตัวกะ Tim Cook อยู่เหมือนกันนะครับ เป็นเหมือนกับที่ผ่านๆ มา หลายๆ ครั้ง Apple ไม่ได้ทำอะไรใหม่หรือดูหวือหวา แต่เป็นการหยิบเอาเทคโนโลยีในตอนที่มันพร้อมบวกกับความเข้าใจความต้องการต้องผู้ใช้งาน และปรับแต่งให้ความใช้งานได้อย่างดี ทำให้สินค้าของตัวเองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หรือคนอื่นต้องเอาไปทำตามเป็นแถวๆ ทั้งที่บางอย่างนั้นทำกันมาอย่างเนินนานแล้ว อย่างเช่นเรื่อง scan ลายนิ้วมือ เมื่อก่อนเกือบ 10 ปีแล้ว มีคนหัวใสเอามาใช้สำหรับปลดล็อคเวลาใช้งาน notebook แต่ปรากฎว่าไม่เวิร์ค คนไม่ใช้เพราะใช้งานยาก สแกนไม่ติดบ้าง ใช้งานจริงไม่ได้ แต่พอ apple เอามาทำเป็น touch ID มันเวิร์คและใช้งานได้จริง

ตอนนี้ผมก็หวังว่า อยากให้ apple ทำ AR/VR ออกมา ให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ไปเลย  

จริงๆ ยังไม่หายไข้สักเท่าไหร่ แต่ต้องกลับมาทำงานแล้ว ทำงานแบบป่วยๆ ทำให้ไม่ค่อยได้งานเท่าไหร่เลยวันนี้
สุดท้ายเลยไปนั้งดูวิดีโอศึกษา angular js แทน  

Google เปิดตัว Pixel Buds หูฟังไร้สายที่รองรับการใช้งาน Google Assistant ในตัว สายหูฟังเป็นผ้าถัก ไม่มีปุ่มแต่รองรับระบบสัมผัสบริเวณหูฟังด้านขวา ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง (รวมแบตหูฟังและแบตจากเคส)

ไฮไลท์ของ Pixel Buds คือการรองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์สูงสุด ณ ตอนนี้ถึง 40 ภาษา แต่ต้องใช้งานคู่กับ Pixel ด้วยการกดค้างที่ทัชแพดด้านขวาของหูฟังเพื่อเปิดและสั่งให้ Google Assistant แปลภาษา และเมื่อพูดเสร็จ Google Assistant จะแปลเป็นอีกภาษาที่สั่งไว้ให้ผ่านลำโพงของ Pixel ส่วนการตอบกลับก็สามารถพูดได้ผ่าน Pixel และจะถูกแปลออกมาผ่านทาง Pixel Buds