Daily Leak

  

เมื่อวันเสาร์นี้ ผมไปเล่นเวคบอร์ดมา กะว่าจะหนีฝนในกรุงเทพหลบๆ ไปเล่นซะหน่อย แต่ก็ยังจะเจอฝนถล่มอีกเซงเป็ด คือตกหนักมากๆ เล่นต่อไปไม่ไหวเจอฝนสาดใส่เม็ดเบ้อเร้อเลย เจ็บโคตร สุดท้ายต้องยอมแพ้ไว้แค่นั้นไม่ได้เล่นต่อ

และนี้คือรูปผลงานของเจ้าฝนที่น่าร๊ากกกกกก มั้ง




  

รู้สึกเหมือนช่วงนี้ มีเรื่องกลุ้มใจหลายๆ เรื่อง อยากอยู่ๆ ก็รู้สึกอยากไปวัดหลวงพ่อโสธรซะอย่างนั้นแหละ แล้วเราก็ไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้วด้วย
วันหยุดนี้ว่างๆ คิดว่าจะไปซะหน่อย ไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว เท่าที่จำได้ตอนไปอุโบสถหลังสีขาวๆ ยังสร้างไม่เสร็จดีเลยนะ
ไม่รู้ว่ากี่ปีแล้วเนีย

หลังนี้แหละ


ไปดูกะตาซะหน่อยดีกว่าว่าจะสวยแค่ไหนๆๆๆๆ

ไปละคับ บาย  

โดยปกติผมก็ซื้อ HTML Theme หรือ Template ในเว็บไซต์ Theme Forest เป็นประจำอยู่ครับ โดยที่ผมก็พอจะคิดได้อยู่แล้วว่า มันต้องมีคนทำงานห่วยๆ ออกมาขายแน่นอน แต่ผมก็ยังไม่เคยเจอกับตัวเองมาก่อนจนกระทั่งเดือนนี้ ผมได้ซื้อ HTML Template มาเพื่อจะทำงานหน้าตาและรูปร่างก็ดูสวยงานดี ผมลองเข้าไปดู Source Code นิดหน่อยแล้วก็รู้สึกว่าใช้ได้ๆ แถมใช้ Bootstrap ด้วยยิ่งน่าวไว้ใจประมาณนึง (อาจเป็นเพราะผมประมาณเกินไป ผมดูโครงสร้าง HTML แล้ว CSS class ที่คนขายวางไม่ละเอียดพอที่จะทำให้รู้ถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่)

พอจ่ายเงินซื้อ เราก็ดาวโหลดลงมา เพื่อจะนำมาสวมกับเว็บแอพของเรา ก็พบปัญหามากมายจากการวางโครงที่ห่วยแตก และการใช้งาน css อย่างไม่เหมาะสม ขาดความยืนหยุ่นอย่างมาก อาทิเช่น
1. เขียน css ทับ class ที่เป็นส่วนของ bootstrap layout ทำให้ผมไม่สามารถใช้โครงสร้างของ bootstrap แบบเดิมๆ ได้เลย
2. บอกว่าเป็นเปลี่ยน theme สีได้ ผมลองดูก็เปลี่ยนได้จริงครับ แต่คนทำเตรียมไว้เฉพาะหน้าแรก หน้าอื่นๆ มีสีเดียว เวรรรรรรรรร!
3. เขียน class ให้ปุ่มทุกปุ่มแยกกันอย่างสิ้นเชิง สรุปคือถ้าผมต้องการแก้ padding เล็กน้อยเพราะ font เป็นภาษาไทย ผมต้องไล่แก้ทุกที่
4. ต่อเนื่องจากข้อที่ 3 class ของแต่ล่ะปุ่มจะไม่ทำงานหากไม่อยู่ใน box ของตัวเอง ผมดึงปุ่มมาใช้ที่อื่น ไม่ได้เลย (ปุ่มมันควรจะเป็น class แบบ global เพราะมันต้องใช้ทั้งเว็บ แย่มากๆ)
ตัวอย่าง
.box-a .btn-primary {
padding: 5px 12px;
color: white;
background-color: #f3043e;
}
.box-b .btn-primary {
padding: 5px 12px;
color: white;
background-color: green;
}


นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กน้อยและยังมีอีกมาก ยังก็ฝากเตือนหน่อยนะครับ ถ้าคิดจะซื้อ theme ดูให้ละเอียดหน่อยนะครับ
  

ปกติแล้ววันนี้จะเป็นวันที่ผมต้องเรียนภาษาหลังเลิกงาน แต่ตอนนี้เพิ่งจบคอร์สไป เลยได้หยุดแบบไม่ทันตั้งด้ว (คือเราไม่รู้ว่ามันจะจบคอร์สแล้วอ่านะ)
วันนี้เลยว่าง ไปดูหนังดีฟ่า บายคับ  

เพิ่งได้อ่านข่าวว่ามีผู้เล่นที่สามารถทำคะแนนได้สูงกว่า 10,000 MMR (เข้าใจว่าเป็นค่าที่ตั้งขึ้นมาเพื่อวัดความเก่งกาจ) ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่ามีการวัดค่าความเก่งแบบนี้ด้วยแหะ ชื่อของเขาคือ Abed Azel "Abed" Yusop ผู้เล่นทีม Digital Chaos ชาวฟิลิปปินส์ วัย 17 ปี ผู้เล่นคนแรกในโลกที่ไปถึงคะแนน 10,000 MMR

ถ้าเป็นผมคงวนๆ อยู่ที่ไม่เกิน 200 ละมั้ง 555

** ข้อมูลเพิ่มเติม
MMR หรือ Matchmaking Rating คือคะแนนที่ใช้ประเมินฝีมือการเล่นของผู้เล่นสำหรับเกม Dota 2 ในโหมดการเล่นจัดอันดับหรือ Ranked Match โดยเมื่อชนะ ค่า MMR ของผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการจับคู่ครั้งต่อไป จะได้เล่นกับผู้เล่นที่มีค่า MMR ใกล้เคียงกัน  

ออกตัวก่อนนะครับ ผมยังหัดท่านี้ไม่สำเร็จ ผมเปลี่ยนมือไม่ทันครับแต่ก็เกือบๆ ละ สังเกตที่รูปผมยังคว้าไม้ไม่ถึง (ฮ่าๆ สงสัยอ่อนจัด)
แต่จะมาแชร์ประสบการณ์ในการหัดท่านี้เล็กน้อย ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาสอนอะไรนะครับ เพราะผมก็เป็นแค่มือสมัครเล่นคนนึงที่เล่นเวคบอร์คเพื่อสุขภาพ
แล้วก็เล่นมาได้แค่ไม่กี่เดือนเอง เพราะฉนั้นอันนนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหัดท่านี้บ้างนะครับ (หวังว่าจะมีประโยชน์มั้งครับ)

ในความคิดเห็นส่วนตัวก่อนที่คุณจะหัดท่านี้คุณควรจะทำสิ่งพวกนี้ให้ได้ก่อนนะครับ แบ่งเป็นขั้นตอนตามด้านล่างนี้เลยครับ
1. คุณต้องสามารถเล่นข้างที่ไม่ถนัดได้แล้ว แต่ไม่ต้องเก่งนะครับ เอาแค่เปลี่ยนข้างเล่นแล้วคุณสามารถปล่อยให้เชือกลากไปได้ก็พอแล้วครับ
(ที่ต้องทำท่านี้ให้ได้ก่อน เพราะคุณจะต้องขึ้น Kicker แล้วหมุนลงน้ำในด้วยมืออีกข้าง)
2. ควรจะขึ้นลง Kicker ได้แบบตรงๆ ได้แบบขึ้นได้สบายๆ เอาแบบขึ้นแล้วไม่มีตกแล้วนะครับ
3. ทำท่า Front side 180 บน Kicker (หมุนหน้าครึ่งรอบบน Kicker) จะได้รู้ ความรู้สึกตอนลงน้ำข้างที่ไม่ถนัด ฝึกให้ชินๆ ครับ
4. ทำท่า Back side 180 (หมุนหลังครึ่งรอบ) บนน้ำได้แล้ว (พอหมุนบนน้ำได้ ต่อไปเราจะไปหมุนกลางอากาศ)

ต่อมาเป็นวิธีการทำฝึกท่าจากที่ผมฟังคำแนะนำจากเพื่อนๆ แล้วก็ประสบการ์ตัวเองนิ้ดดดดเดียวครับ
1. ให้เริ่มต้นฉีกเข้าไปหา Kicker ตรงๆ เลยครับ ไม่ต้องเร่งความเร็วหรืออะไรเลยนะครับ เข้าไปตรงๆ เหมือนตอนขึ้นปกตินั่นละ (รูปที่ 1)
2. ระหว่างอยู่บน Kicker ให้กระชากไม้เข้ามาใกล้ตัวเพื่อเตรียมตัวหมุนครับ ถ้าเราไม่ดึงไม้มาใกล้ตัวเราจะหมุนหลังเปลี่ยนมือลำบากครับ ตัวเราจะพุ่งไปข้างหน้าหน่อยนึงครับ (ถ้าไม่เคยทำมาก่อนมันจะเหวอๆ หน่อยนะครับ ช่วงแรกๆ ผมหัดกระชากให้ลงตรงก่อนเพื่อให้ชินครับ ยังไม่ได้หมุนทันที) ดูรูปที่ 2 จังหวะที่ผมกระชาก
3. พอพ้น Kicker ไปแล้วให้หมุนกลับหลังทันทีเลยครับแล้วก็อ้อมไม้ไปด้านหลังแล้วก็คว้าให้ได้ครับ สำหรับตัวผมเองผมต้องย่อตัวลงหน่อยเพื่อให้ส่งไม้ได้ให้ครับ (แต่ยังทำไม่ได้ง่ะ) รูแบบ 3 กับ 4 คือรูปที่ผมกำลังหมุนกลับหลัง
4. ไม่มีแล้วครับ เพราะผมยังลงไม่ได้ยังไงถ้าผมทำได้แล้วจะมาเพิ่มนะครับ รูปที่ 5 คือผมกำลังร่วงๆ ครับ 555










  

ผมเห็นข่าวมาจาก มีกรณีที่ทหารเรียกจับ Grab Taxi ที่ลูกค้าเรียกให้มารับ ไม่ได้แจ้งข้อหา และเตรียมปรับ 5,000 บาท เนิ้อข่าวมีดังนี้ครับ

เรียก GrabTaxi มารับและถูกทหารเข้าจับกุม
ทางทหารระบุว่าได้รับคำสั่งมาและหากต้องการโต้แย้งให้ไปคุยกับนายก ทางฝั่งแท็กซี่จึงถามย้ำว่าต้องการทราบว่าผิดข้อหาอะไร ทหารตอบเพียงว่า "ผมทำตามหน้าที่"
ด้านแท็กซี่เล่าผ่านคลิปโดยยืนยันว่าตัวเองไม่ได้จอดรถรอแต่คลาดกับผู้โดยสาร แต่ทหารใช้มือล้วงเข้ามาในรถเพื่อบิดกุญแจดับเครื่องและจะปรับเงินจำนวน 5,000 บาท พร้อมไล่ผู้โดยสารลงจากรถ มิฉะนั้นจะโดนปรับด้วย

ผมไม่ขอกล่าวโทษทหารที่ปฏิบัติหน้าที่นะครับ แต่กรณีแบบนี้มันต้องมีผู้รับผิดชอบสิ ถ้าไม่มีใครสั่งให้ทหารทำ ก็คงไม่จับหรอกครับ (ผมขอตัดประเด็นที่ทหารปฏิบัติหน้าที่โดยพลการนะครับ)

แล้วที่ผิดกว่าเดิมนอกจากสั่งคำสั่งลงมาแล้วเนี่ย ยังไม่ให้ความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายอีก ปกติแล้วที่ Uber ผิดเพราะผู้ที่จะขับรถโดยสารบริการผู้อื่นในแบบสาธารณะได้เนี่ย คนๆ จะต้องมีใบอนุญาตเสียก่อน แถมรถที่ใช้ก็ต้องจดทะเบียนกับขอส่งเป็นรถขนส่งสาธารณะด้วย ในกรณี Uber ผิดเต็มๆ แต่กรณีของ Grab Taxi นั้นต่างออกไป Grab Taxi เป็นเพียงอุปกรณ์ในการเรียกรถโดยสารเฉยๆ และรถที่ให้บริการยังเป็น Taxi ที่ถูกกฏหมายซึ่งไม่น่าจะมีอะไรผิดนะครับ

หรือในกรณีมีคนแจ้งว่า Taxi คันนี้โดนปรับเพราะไปจอดในที่ห้ามจอด ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ เพราะว่ามา "จอดรถ" กับ "หยุดรถ​" ในทางกฏหมายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง  

รู้สึกช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดี ป่วยบ่อยมากๆ 3 วันดี 4 วันไข้ ตอนนี้เองก็ยังไม่หาย

หลังจากที่เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่ตอนเช้าวันจันทร์ แล้วก็เริ่มมีอาการหนักขึ้นในช่วงค่ำของวันนั้น
ทำให้ต้องหยุดงานไปถึง 2 วัน แล้วเพิ่งจะได้กลับมาทำงานในวันนี้ แต่ก็ยังไม่หายดีนัก ยังมีไข้อ่อนๆ ตลอดเวลา

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ โดนฝนเป็นประจำ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันให้ดีนะครับ จะได้ไม่เสียงานเสียการแบบผม  

KOI Thé (โคอิเตะ) ร้านชานมจากประเทศไต้หวัน ได้มาเปิดสาขาในประเทศไทยแล้ว ตอนนี้ขยายไปหลายสาขาแล้ว ที่ผมรู้จักก็จะมี บนชั้น 3 Siam Square One และเซ็นทรัลบางนาชั้นใต้ดิน ทางร้านก็ยังคงเน้นเสิร์ฟชานมคุณภาพดีจากวัตถุดิบสุดอลังการ และที่ร้านนี้ยังมีจุดขายอีกอย่างคือไข่มุกสีทองๆๆๆๆ หรือ Golden Pearls อีกต่างหาก

อีกทั้งชาที่ต้มในแต่ละครั้งนั้นทางร้านจะเก็บไว้ใช้เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น หากครบ 3 ชั่วโมงทางร้านจะไม่เก็บไว้ทำแก้วต่อไป ทำให้มั่นได้ใจว่าชาทุกแก้วจะมีความสดใหม่อย่างแน่นอน และหลังจากต้มไข่มุกเสร็จแล้ว ทางร้านจะเก็บไว้เพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที หากไข่มุกเหลือทางร้านจะนำไปทิ้งทันที ทั้งนี้ก็เพื่อให้ไข่มุกยังมีความเหนียว นุ่ม หนึบ อยู่เสมอ  

Celebrity Brownie เมนูโปรดของผมที่มักจะกินแทบทุกครั้งที่ไป Swensen แล้วครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ผมห่างหายไปนานมากๆ กับการกินไอติม
กลับมาคราวนี้ก็ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่ผิดหวังเลยจริงๆ